Thursday, 15 September 2011

หลักการและขั้นตอนในการพัฒนา

ผู้วิจัยได้ทำการค้นคว้าหาเอกสารที่เกี่ยวข้องโดยเน้นไปที่หัวข้อเรื่องต่อไป
·         ทฤษฎีการเรียนรู้
·         การประเมินตามสภาพจริง
·         หลักสูตรและสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา
·         บทเรียนแบบโปรแกรม
·         การนิเทศแบบมีส่วนร่วม

ในส่วนพัฒนามีหัวข้อต่างๆต่อไปนี้
·         สร้างและพัฒนาบทเรียนแบบโปรแกรม
·         ประเมินหาประสิทธิภาพของบทเรียนแบบโปรแกรม


·         ทดลองใช้บทเรียนแบบโปรแกรม
·         นิเทศแบบมีส่วนร่วม


·         ประเมินความสามารถของครูพลศึกษาเรื่องการประเมินตามสภาพจริง
o   ด้านความรู้
o   ด้านพฤติกรรมการปฏิบัติ
o   ด้านเจตคติ


·         ประเมินเจตคติของครูพลศึกษาที่มีต่อบทเรียนแบบโปรแกรมและการนิเทศแบบมีส่วนร่วม


เมื่อได้ทำการพัฒนาตามขั้นตอนที่ผ่านมาแล้วนั้นจะทำให้ได้ข้อมูล ดังต่อไปนี้
1.    ประสิทธิภาพของบทเรียนแบบโปรแกรม
2.    ความสามารถของครูพลศึกษาเรื่องการประเมินตามสภาพจริง
·         ด้านความรู้
·         ด้านพฤติกรรมการปฏิบัติ
·         ด้านเจตจคติ
3.     เจตคติของครูพลศึกษาที่มีต่อรูปแบบการพัฒนาครูในการประเมินตามสภาพจริงวิชาพลศึกษา


ซึ่งกระบวนการทั้งหมด จะทำให้ได้มาซึ่ง  รูปแบบการพัฒนาครูในการประเมินตามสภาพจริงวิชาพลศึกษา ระดับมัธยมศึกษา



หลักการประเมิน
1.    บทเรียนแบบโปรแกรม เรื่องการประเมินตามสภาพจริงวิชาพลศึกษา ระดับมัธยมศึกษา
ทำการหาค่าความเที่ยงตรง และ ความเป็นปรนัย  ของบทเรียนแบบโปรแกรม  ตามความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ  ตรวจสอบความเที่ยงตรงของเนื้อหา โดยใช้วิธี  IOC  โดยผลการประเมินมีความเหมาะสม  โดยมีค่าตั้งแต่  0.60-1.00

2.    แบบทดสอบความรู้ก่อนและหลังการศึกษาบทเรียนแบบโปรแกรมเรื่องการประเมินตามสภาพจริงวิชาพลศึกษา  ระดับมัธยมศึกษา
หาค่าความเที่ยงตรง และ ความเป็นปรนัยของแบบทดสอบ  โดยให้ผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ความสอดคล้องของข้อคำถามกับวัตถุประสงค์  โดยใช้ข้อคำถามที่มีค่า  IOC  มีค่าตั้งแต่  0.60-1.00
หาค่าความเชื่อมั่น  โดยใช้สูตร  KR-20  ของ  Kuder  และ  Richardson  ได้ค่าความเชื่อมั่น  0.79  และตรวจสอบค่าอำนาจจำแนกและระดับความยากง่าย  โดยใช้เกณฑ์ค่าอำนาจจำแนก  ตั้งแต่  0.20-1.00  และระดับความยากง่าย  ตั้งแต่  0.20-0.80  โดยทำการทดสอบแล้วได้ค่าอำนาจจำแนก  ระหว่าง  0.25-0.55  และระดับความยากง่ายระหว่าง  0.40-0.78

3.    แบบประเมินพฤติกรรมการปฏิบัติของครูพลศึกษาในการประเมินตามสภาพจริงวิชาพลศึกษา  ระดับมัธยมศึกษา
วิเคราะห์ความเหมาะสมของแบบประเมินพฤติกรรม  ตามความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ  เพื่อหาคุณภาพด้านความเที่ยงตรงของเนื้อหา  และ  ความเป็นปรนัย  โดยการวิเคราะห์ค่าเฉลี่ย  และ  ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน  โดยภาพรวมของแบบประเมินมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก  โดยมีค่าเฉลี่ย  4.02

4.    แบบประเมินเจตคติของครูพลศึกษาที่มีต่อการประเมินตามสภาพจริงวิชาพลศึกษา
วิเคราะห์ความเหมาะสมของแบบประเมินเจตคติ  ตามความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ  เพื่อหาคุณภาพด้านความเที่ยงตรงของเนื้อหา  และ  โดยการวิเคราะห์ค่าเฉลี่ย  และ  ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน  โดยภาพรวมของแบบประเมินมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก  โดยมีค่าเฉลี่ย  3.81  และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ  ความเหมาะสมอยู่ในระดับมากทุกข้อ
วิเคราะห์ค่าความเชื่อมั่น  ด้วยสูตรสัมประสิทธิ์อัลฟาของ  Cronbach  ได้ค่าความเชื่อมั่น  0.76

5.    แบบประเมินเจตคติของครูพลศึกษาที่มีต่อรูปแบบการพัฒนาครูในการประเมินตามสภาพจริงวิชาพลศึกษา  ระดับมัธยมศึกษา 
วิเคราะห์ความเหมาะสมของแบบประเมิน  ตามความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ  เพื่อหาคุณภาพด้านความเที่ยงตรงของเนื้อหา  โดยการวิเคราะห์ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน  ได้ภาพรวมของแบบประเมิน  ความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก  มีค่าเฉลี่ย  4.20 




ผลการนำไปใช้
            บทเรียนตามโปรแกรมที่พัฒนาขึ้นนี้  มีประสิทธิภาพเป็นไปตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้  จึงสามารถนำไปให้ครูพลศึกษา  ระดับมัธยมศึกษา  ไปใช้เพื่อพัฒนาความรู้เรื่องการประเมินตามสภาพจริงวิชาพลศึกษาได้
            การนิเทศแบบมีส่วนร่วม  มีผลทำให้ครูพลศึกษา  มีความรู้  มีพฤติกรรมการปฏิบัติและมีเจตคติที่ดีต่อการประเมินตามสภาพจริง

No comments:

Post a Comment